วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิชา ฐานข้อมูลเบื้องต้น การบ้านบทที่ 3 ประจำวันที่ 17 พฤศจิกายน 2553

คำถามท้ายบทที่ 3

1การแบ่งสถาปัตยกรรมของฐานข้อมูลออกเป็น 3 ระดับ มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ใดเป็นสำคัญ
  • วัตถุประสงค์สำคัญของสถาปัตยกรรม คือ เพื่อให้การดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องออกแบบเทคนิกการจัดเก็บข้อมูลด้วยโครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้น เนื่องจากผู้ใช้งานทั่วไปไม่ใช่ผู้ที่ฝึกฝนมาทางคอมพิวเตอร์ ดังนั้น จึงควรซ่อนรายละเอียดความซับซ้อนดังกล่าวเพื่อทำให้การติดต่อใช้งานง่ายและสะดวยขึ้น ประกอบด้วย ระดับภายนอกหรือวิว(External level), ระดับแนวคิด(Conceptual level), ระดับภายใน(Internal or Physical level)

2ความเป็นอิสระของข้อมูลมีบทบาทสำคัญอย่างไรต่อการจัดการฐานข้อมูล จงอธิบาย
  • เมื่อมีการเปลื่ยนแปลงแก้ไขโครงสร้างข้อมูลในระดับภายในหรือระดับแนวคิดจะไม่มีผลต่อโปรมแกรมที่ผู้ใช้งานอยู่ในระดับภายนอก

3ปัญหาที่สำคัญของ Hierarchical Model คืออะไร และเหตุใด Hierarchical Model จึงไม่สามารถลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้ทั้งหมด
  • เป็นระบบฐานข้อมูลที่มีระบบโครงสร้างซับซ้อนน้อยที่สุด
  • มีค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างฐานข้อมูลน้อย
  • ลักษณะโครงสร้างเข้าใจง่าย
  • เหมาะสมสำหรับงานที่ต้องการค้นหาข้อมูลแบบมีเงื่อนไขเป็นระดับและออกงานแบบเรียงลำดับต่อเนื่อง
  • ป้องกันระบบความลับของข้อมูลได้ดี เนื่องจากต้องอ่านแฟ้มข้อมูลที่เป็นต้นกำเนิด

4เหตุใด Network Model ซึ่งสามารถแก้ปัญหาความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้จึงไม่เหมาะกับการนำมาใช้งาน
  • ความสัมพันธ์ของข้อมูลที่เชื่อมโยงกันไปมาทำให้ยากต่อการใช้งาน
  • ผู้ใช้ต้องเข้าใจโครงสร้างของฐานข้อมูล
  • เหมาะสำหรับโปรแกรมเมอร์ที่คุ้นเคย ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
  • มีค่าใช้จ่ายและสิ้นเปลืองพื้นที่ในหน่วยความจำเพราะจะเสียพื้นที่ในอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำหรับตัวบ่งชี้มาก
  • โครงสร้างแบบเครือข่ายเป็นโครงสร้างที่ง่ายไม่ซับซ้อนเนื่องจากไม่ต้องอ่านแฟ้มข้อมูลที่เป็นต้นกำเนิดก่อน จึงทำให้ป้องกันความลับของข้อมูลได้ยาก

5สิ่งที่ทำให้ Realtional Model ได้รับความนิยมอย่างมากคืออะไร จงอธิบาย
  • เหมาะกับงานที่เลือกดูข้อมูลแบบมีเงื่อนไขหลายคีย์ฟิลด์ข้อมูล
  • ป้องกันข้อมูลถูกทำลายหรือแก้ไขได้ดี เนื่องจากโครงสร้างแบบสัมพันธ์นี้ผู้ใช้จะไม่ทราบว่าการเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลอย่างแท้จริงเป็นอย่างไร จึงสามารถป้องกันข้อมูลถูกทำลายหรือถูกแก้ไขได้ดี
  • การเลือกดูข้อมูลทำได้ง่าย มีความซับซ้อนของข้อมูลระหว่างแฟ้มต่าง ๆ น้อยมาก อาจมีการฝึกฝนเพียงเล็กน้อยก็สามารถใช้งานได้
  • เมื่อผู้ใช้ต้องการข้อมูลในตารางจะใช้วิธีเปรียบเทียบค่าของข้อมูลแทน โดยไม่ต้องรู้ว่าข้อมูลนั้นเก็บอย่างไร โดยแค่บอกกับ DBMS ว่าต้องการข้อมูลจากตารางใด ที่มีค่าในคอลัมน์ใด เป็นต้น
  • ง่ายในการทำความเข้าใจ
  • ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น